การกินอาหารเสริมที่เป็นแคปซูล จำพวก งาดำ ใบบัวบก ถั่วเหลือง มังคุด ฝรั่ง เป็นการสกัดเอาสารที่เป็นประโยชน์ ไม่ทราบว่าทานร่วมกับการปฏิบัติแนวแพทย์วิถีธรรมได้หรือไม่
#ก็คือว่าถ้าร่างกายขาดสิ่งเหล่านั้น ก็รับประทานร่วมได้ แต่ถ้าร่างกายไม่ขาดไปทานร่วมมันก็เป็นพิษ และถ้าเราสามารถกินอาหารอย่างถูกสมดุลร้อนเย็นได้ ธาตุอาหารเหล่านั้นจะไม่ขาด
#ถ้าเรากินอาหารอย่างถูกสมดุลร้อนเย็น ตามที่พี่น้องเรียนไปนี้ได้ธาตุที่ว่ามาทั้งหมดนั้นจะไม่ขาด ในเมื่อมันไม่ขาดก็ไม่จำเป็นต้องกิน พอเข้าใจไหม
#เรื่องแคลเซียมอะไรต่างๆ นี่จะเล่าให้ฟังนิดหนึ่ง คนเรานี่ก็จะมาแย่เพราะไอ้โรคกระดูก ผุ พรุน บาง ต่างๆ นี่ เขาก็บอกว่าต้องกินแคลเซียมที่หมอจ่าย กินงา กินปลาเล็กปลาน้อย กินผักที่มีสีเขียวต่างๆ เขาก็ว่าต้องกินพวกนั้น ปรากฏว่าทุกวันนี้ยิ่งกินยิ่งแย่ หลายคนเลยยิ่งกินยิ่งแย่ๆ เพราะอะไร
#เพราะว่าในสมัยก่อนนี่ โรคกระดูก ผุ พรุน บาง นั้น เกิดจากภาวะเย็นเกินเป็นส่วนใหญ่ 30 ปีย้อนหลังไป ป่าไม้ แม่น้ำ ลำธารเยอะมาก มลพิษไม่ค่อยมี ความเครียดไม่ค่อยมี คนส่วนใหญ่อยู่ในภาวะเย็นเกิน
#เมื่ออยู่ในภาวะเย็นเกินโรคกระดูก ผุ พรุน บาง ก็เป็นประเภทเย็นเกิน พอกิน แคลเซียมร้อน จากงา จากปลาเล็กปลาน้อย จากผักสีเขียวฤทธิ์ร้อน หรือยาที่หมอจ่าย กินเข้าไปก็จะไปบำรุงกระดูกๆ ก็จะแข็งแรงขึ้น
#แต่ยุคนี้ 10 กว่าปี 20 ปีมานี้นี่ โลกร้อนขึ้น เมื่อโลกร้อนขึ้นเนี่ย โรคกระดูก ผุ พรุน บาง ส่วนใหญ่เกิดจากภาวะร้อนเกิน เมื่อเกิดจากภาวะร้อนเกินนั้น แคลเซียมที่เขาต้องการนั้นเขาต้องการแคลเซียมเย็น จากผักจากสมุนไพรอาหารฤทธิ์เย็น เขาต้องการแคลเซียมเย็น อันนี้คือสัจจะ เป็นอย่างนี้
#เมื่อเขาต้องการแคลเซียมเย็นเนี่ย แต่ว่าคนไปกินแคลเซียมร้อนเข้าไป ที่ว่ามาเมื่อกี๊ มันก็ยิ่งร้อนเกินไปใหญ่เลย ไปกินแคลเซียมร้อนมันก็ยิ่งร้อนเกินไปใหญ่เลยแย่เลย กินแคลเซียมร้อนก็ร้อนเกิน ก็แย่ ยิ่งทำให้เกิดปัญหากระดูกมากขึ้น และมีโรคแทรกซ้อนเพราะกล้ามเนื้อต้องเกร็งตัวบีบเอาแคลเซียมร้อนออก ก็แย่
#มีคนไข้หลายท่านที่มาพบผม ผมก็แนะนำให้หยุดกินแคลเซียมร้อนแล้วก็กิน แคลเซียมเย็นแทน ก็ดีขึ้นนะ มวลกระดูกเพิ่มภายในหนึ่งถึงหกเดือนเป็นส่วนใหญ่ นี่ก็เล่าให้ฟังเป็นอย่างนี้ครับ
#โรควัยหมดประจำเดือนก็เหมือนกัน โรควัยทอง คนอายุ 40 ขึ้นไปก็มักจะเป็นโรควัยทอง เป็นหมดฮอร์โมนเอสโตรเจนจากรังไข่ จากรังไข่ที่ตกไปเรื่อยๆฮอร์โมนเอสโตรเจนก็หมดไปเรื่อยๆๆๆ ฮอร์โมนเอสโตรเจนหมดไปเรื่อยๆ
#ฮอร์โมนเอสโตรเจนเป็นฮอร์โมนเย็น พอหมดปุ๊บก็ร้อนวูบวาบหงุดหงิดร้อนวูบวาบ กลายเป็นภาวะร้อนเกิน คุณหมอก็เคยใช้แคลเซียมเคยใช้เอสโตรเจนได้ผลก็ใช้ไปแต่สมัยก่อน มันได้ผลก็มาใช้เพราะว่า โรคเขาจะกระดูกผุ กระดูกผุก็ไปจ่ายแคลเซียมร้อนเข้าไป มันก็จะร้อนเข้าไปใหญ่ แย่เข้าไปใหญ่อีก
#เอสโตรเจนที่กินก็ปริมาณก็ไม่ใช่สิ่งที่ชีวิตต้องการ เพราะไม่สม่ำเสมอ พอไม่สม่ำเสมอมันไม่ใช่สิ่งที่ชีวิตต้องการ พอไม่ใช่สิ่งที่ชีวิตต้องการ คือกินแคลเซียมก็กินไปเท่ากันทุกวันอ่ะ กี่เม็ดก็แล้วแต่
#แต่ความร้อนเย็นของอากาศและของร่างกายก็ไม่เท่ากันทุกวัน มันก็ทำให้ไม่สมดุลไม่สมดุลกล้ามเนื้อต้องเกร็งตัวบีบออกดันออก เค้าก็ดันมาออกเต้านม ก็เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านม มีวิชาการแพทย์แผนปัจจุบันก็บอกว่าเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมอย่างนี้เป็นต้น
#เพราะฉะนั้นการกินแคลเซียมกับเอสโตรเจนเข้าไป จึงจะเป็นปัญหามากขึ้นๆๆ จะมีโรคแทรกซ้อนมากขึ้น
#ผมได้เจอคนไข้ที่มีปัญหาแบบนี้แล้วผมก็แนะนำ มีเจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลในจังหวัดขอนแก่น เค้าเจอปัญหากินแคลเซียมเอสโตรเจนมาตั้งหลายปี เป็นวัยทองไม่หาย เป็นหนักขึ้นๆ
#ผมก็บอกหยุดกินซะแล้วมากินแคลเซียมเย็น กินเอสโตรเจนธรรมชาติ ผมก็บอกมากินเอสโตรเจนเย็นจากธรรมชาติเนี่ย เพราะอันเดิมกินแล้วไม่หายแปลว่าไม่ถูกกัน กินไม่ดีขึ้นแย่ไปกว่าเดิมด้วย
#ผมก็บอกให้มาทำน้ำสมุนไพรฤทธิ์เย็น นี่แหละ ย่านาง ใบเตย ผักบุ้ง บัวบกอ่อมแซบ มาทำสมุนไพรฤทธิ์เย็น อันนี้มีแคลเซียมเย็น ผมบอกว่าอย่างงี้ แล้วก็มากินน้ำมะพร้าวเอาน้ำมะพร้าวสดใส่เข้าไป น้ำมะพร้าวอ่อนสดใส่เข้าไปหนึ่งต่อหนึ่ง
#ผมก็บอกให้เค้าผสมหนึ่งต่อหนึ่ง กินครั้งละครึ่งถึงหนึ่งแก้ว วันละหนึ่งถึงสี่ครั้ง ก่อนอาหารหรือตอนท้องว่างหรือเท่าที่รู้สึกสบาย ปรากฏว่าเค้าทำอยู่หนึ่งสัปดาห์ ก็แจ้งผมว่า ขอบคุณอาจารย์มาก ที่เป็นมาหลายปีหายแล้ว
#เพราะว่าน้ำมะพร้าวมันมีเอสโตรเจนธรรมชาติอยู่ ส่วนสมุนไพรฤทธิ์เย็นก็มีแคลเซียม ได้สองอย่างเข้าไปก็สมบูรณ์แล้ว อย่างนี้เป็นต้น ก็กินอย่างนั้นแหละหายแล้วก็เลิก ไม่สบายใหม่ก็กินอีก ไม่เห็นเป็นไรเลย
#เพราะถ้าไปกินเป็นประจำเลยมันก็ มันเปลืองเงิน มันเปลืองเงินแล้วธาตุมันก็จะเกินด้วย เปลืองทั้งเงินธาตุมันก็จะเกินด้วย มันก็จะไม่เข้าท่าเอานะ ก็ไม่เอาเราก็ไม่กินโอเคนะ ก็เป็นอย่างนี้นะครับ
#สรุปแล้วถ้าเราปรับสมดุลร้อนเย็นได้ดี ปฏิบัติได้ดีทำได้ดี ลดกิเลสได้ดี มันจะไม่มีวัยทอง ไม่มีหรอกนะ
#ซึ่งไปตรงกับงานวิจัยของ น.พ. ฮินนี่ เครตั้น ที่วิจัยเรื่องกระดูกยาวนานที่สุดในโลก พบว่าแคลเซียมที่เข้ากระดูกได้ดีที่สุดในโลกตอนนี้คือ แคลเซียมจากผักใบเขียวและผักใบเขียวที่ผมไปดูส่วนใหญ่กลายเป็นผักฤทธิ์เย็น ไปดูในงานวิจัย ก็เลยอ้อรู้แล้วคืออันนี้ อย่างนี้เป็นต้น
#หรือแม้แต่ผู้ป่วยไตวายผู้ป่วย ไตวายนี่ก็คุณหมอรักษามา 100 กว่าปี ก็ไม่มีใครหายสักคน มีแต่ตาย คุณหมอแผนปัจจุบันนะแต่คนมารักษากับเรานี่ เยอะแยะไปหมดเลย มีเคสเยอะแยะเต็มไปหมด หลายท่านหาย เพราะเราใช้วิธีปรับสมดุลร้อนเย็นรักษา
#คนไข้ไตวายส่วนใหญ่จะเป็นภาวะร้อนเกินจึงดูดน้ำไปดับร้อนจึงบวม แล้วโพแทสเซียมที่เกินในคนไข้ไตวาย เป็นโพแทสเซียมร้อน จึงเป็นสิ่งที่เขาไม่ต้องการเขาจึงดูดน้ำไปดับร้อน แล้วเขาต้องการโพแทสเซียมเย็น
#โพแทสเซียมเย็นมีอยู่ในผักสมุนไพรฤทธิ์เย็น ผักสดสมุนไพร ผักสดสีเขียวนี่แหละ สมุนไพรฤทธิ์เย็นนี่แหละ เขาจะมีโพแทสเซียมเย็นอยู่ในอาหารฤทธิ์เย็น พอกินพวกฤทธิ์เย็นนี้เข้าไป ชีวิตต้องการ เขาก็จะดูดไปฟื้นไต
#เพราะเขาต้องการฟื้นหัวใจฟื้นไต ชีวิตต้องการโพแทสเซียมในกระบวนการโซเดียมปั๊มของหัวใจ การทำงานของเซลล์ พอได้โพแทสเซียมเย็นเข้าไปเขาก็สบายเลย รับได้เลย มีพลังเลย พอมีพลังเขาก็ขับโพแทสเซียมร้อนออก
#พอเขามีพลังเขาสร้างไตขึ้นมาให้แข็งแรง สร้างร่างกายส่วนอื่นๆ ให้แข็งแรง เขาจะขับโพแทสเซียมร้อนออกเขาจะแข็งแรงนะครับ นี่คือสัจจะ เป็นอย่างนี้ นี่คือเรื่องราวเป็นอย่างนี้
#แต่ถ้ากินโพแทสเซียมร้อนเข้าไปก็แย่เหมือนกันนะ กินโพแทสเซียมร้อนเข้าไปแล้วจะแย่ ต้องกินโพแทสเซียมเย็น กินโพแทสเซียมร้อนนี่แย่เลย ถ้ากินผักสดสีเขียว ผลไม้สีเขียวที่มีฤทธิ์ร้อนมันก็แย่ เพราะมันร้อน ถ้าในกรณีของคนที่มีภาวะร้อนเกิน
#เพราะ ฉะนั้นต้องตรวจสอบภาวะร้อนเย็นให้ดี ตรวจสอบภาวะร้อนเย็นให้ดี ถ้าไตวายเป็นเพราะว่าร้อนเกินก็ใช้เย็น เป็นภาวะเย็นเกินก็ใช้ร้อน เป็นร้อนเย็นพันกันก็ใช้ร้อนเย็นผสมกันในการรักษา คนไข้ก็จะดีขึ้นนะครับ
#แล้วคุณหมอท่านไปห้ามกินผักสดผลไม้สด พอไปห้ามกินแล้วไปห้ามกินตัวที่มันจะหาย มันก็เลยไม่มีใครหายซักคน ตั้งแต่รักษามา ตายทุกคน ไม่มีใครหายสักคนเลย เพราะท่านไปห้ามกินไอ้ตัวที่มันจะหาย ประเด็นมันอยู่ตรงนี้ และท่านไม่รู้ร้อนเย็นที่มันอยู่ในพืช อยู่ในอาหาร
#และก็น่าเห็นใจท่าน ท่านยังไม่รู้น่ะ ท่านก็ไปห้ามกินตัวที่มันจะหาย เลยไม่มีใครหายเลยซักคน ไอ้เรานี่รู้ว่าผักสดผลไม้สดมีทั้งฤทธิ์ร้อนและฤทธิ์เย็น
#ถ้ากรณีภาวะร้อนเกินนี่ก็ให้กินฤทธิ์เย็น กรณีภาวะเย็นเกินก็ให้กินฤทธิ์ร้อน มันก็จะดีขึ้น นะครับ คนไข้จะดีขึ้นได้ด้วยประการนี้
ดร.ใจเพชร กล้าจน(หมอเขียว)
วันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐
นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ
ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์วิถีธรรม
วิชชาธิการบดี สถาบันวิชชาราม
#ก็คือว่าถ้าร่างกายขาดสิ่งเหล่านั้น ก็รับประทานร่วมได้ แต่ถ้าร่างกายไม่ขาดไปทานร่วมมันก็เป็นพิษ และถ้าเราสามารถกินอาหารอย่างถูกสมดุลร้อนเย็นได้ ธาตุอาหารเหล่านั้นจะไม่ขาด
#ถ้าเรากินอาหารอย่างถูกสมดุลร้อนเย็น ตามที่พี่น้องเรียนไปนี้ได้ธาตุที่ว่ามาทั้งหมดนั้นจะไม่ขาด ในเมื่อมันไม่ขาดก็ไม่จำเป็นต้องกิน พอเข้าใจไหม
#เรื่องแคลเซียมอะไรต่างๆ นี่จะเล่าให้ฟังนิดหนึ่ง คนเรานี่ก็จะมาแย่เพราะไอ้โรคกระดูก ผุ พรุน บาง ต่างๆ นี่ เขาก็บอกว่าต้องกินแคลเซียมที่หมอจ่าย กินงา กินปลาเล็กปลาน้อย กินผักที่มีสีเขียวต่างๆ เขาก็ว่าต้องกินพวกนั้น ปรากฏว่าทุกวันนี้ยิ่งกินยิ่งแย่ หลายคนเลยยิ่งกินยิ่งแย่ๆ เพราะอะไร
#เพราะว่าในสมัยก่อนนี่ โรคกระดูก ผุ พรุน บาง นั้น เกิดจากภาวะเย็นเกินเป็นส่วนใหญ่ 30 ปีย้อนหลังไป ป่าไม้ แม่น้ำ ลำธารเยอะมาก มลพิษไม่ค่อยมี ความเครียดไม่ค่อยมี คนส่วนใหญ่อยู่ในภาวะเย็นเกิน
#เมื่ออยู่ในภาวะเย็นเกินโรคกระดูก ผุ พรุน บาง ก็เป็นประเภทเย็นเกิน พอกิน แคลเซียมร้อน จากงา จากปลาเล็กปลาน้อย จากผักสีเขียวฤทธิ์ร้อน หรือยาที่หมอจ่าย กินเข้าไปก็จะไปบำรุงกระดูกๆ ก็จะแข็งแรงขึ้น
#แต่ยุคนี้ 10 กว่าปี 20 ปีมานี้นี่ โลกร้อนขึ้น เมื่อโลกร้อนขึ้นเนี่ย โรคกระดูก ผุ พรุน บาง ส่วนใหญ่เกิดจากภาวะร้อนเกิน เมื่อเกิดจากภาวะร้อนเกินนั้น แคลเซียมที่เขาต้องการนั้นเขาต้องการแคลเซียมเย็น จากผักจากสมุนไพรอาหารฤทธิ์เย็น เขาต้องการแคลเซียมเย็น อันนี้คือสัจจะ เป็นอย่างนี้
#เมื่อเขาต้องการแคลเซียมเย็นเนี่ย แต่ว่าคนไปกินแคลเซียมร้อนเข้าไป ที่ว่ามาเมื่อกี๊ มันก็ยิ่งร้อนเกินไปใหญ่เลย ไปกินแคลเซียมร้อนมันก็ยิ่งร้อนเกินไปใหญ่เลยแย่เลย กินแคลเซียมร้อนก็ร้อนเกิน ก็แย่ ยิ่งทำให้เกิดปัญหากระดูกมากขึ้น และมีโรคแทรกซ้อนเพราะกล้ามเนื้อต้องเกร็งตัวบีบเอาแคลเซียมร้อนออก ก็แย่
#มีคนไข้หลายท่านที่มาพบผม ผมก็แนะนำให้หยุดกินแคลเซียมร้อนแล้วก็กิน แคลเซียมเย็นแทน ก็ดีขึ้นนะ มวลกระดูกเพิ่มภายในหนึ่งถึงหกเดือนเป็นส่วนใหญ่ นี่ก็เล่าให้ฟังเป็นอย่างนี้ครับ
#โรควัยหมดประจำเดือนก็เหมือนกัน โรควัยทอง คนอายุ 40 ขึ้นไปก็มักจะเป็นโรควัยทอง เป็นหมดฮอร์โมนเอสโตรเจนจากรังไข่ จากรังไข่ที่ตกไปเรื่อยๆฮอร์โมนเอสโตรเจนก็หมดไปเรื่อยๆๆๆ ฮอร์โมนเอสโตรเจนหมดไปเรื่อยๆ
#ฮอร์โมนเอสโตรเจนเป็นฮอร์โมนเย็น พอหมดปุ๊บก็ร้อนวูบวาบหงุดหงิดร้อนวูบวาบ กลายเป็นภาวะร้อนเกิน คุณหมอก็เคยใช้แคลเซียมเคยใช้เอสโตรเจนได้ผลก็ใช้ไปแต่สมัยก่อน มันได้ผลก็มาใช้เพราะว่า โรคเขาจะกระดูกผุ กระดูกผุก็ไปจ่ายแคลเซียมร้อนเข้าไป มันก็จะร้อนเข้าไปใหญ่ แย่เข้าไปใหญ่อีก
#เอสโตรเจนที่กินก็ปริมาณก็ไม่ใช่สิ่งที่ชีวิตต้องการ เพราะไม่สม่ำเสมอ พอไม่สม่ำเสมอมันไม่ใช่สิ่งที่ชีวิตต้องการ พอไม่ใช่สิ่งที่ชีวิตต้องการ คือกินแคลเซียมก็กินไปเท่ากันทุกวันอ่ะ กี่เม็ดก็แล้วแต่
#แต่ความร้อนเย็นของอากาศและของร่างกายก็ไม่เท่ากันทุกวัน มันก็ทำให้ไม่สมดุลไม่สมดุลกล้ามเนื้อต้องเกร็งตัวบีบออกดันออก เค้าก็ดันมาออกเต้านม ก็เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านม มีวิชาการแพทย์แผนปัจจุบันก็บอกว่าเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมอย่างนี้เป็นต้น
#เพราะฉะนั้นการกินแคลเซียมกับเอสโตรเจนเข้าไป จึงจะเป็นปัญหามากขึ้นๆๆ จะมีโรคแทรกซ้อนมากขึ้น
#ผมได้เจอคนไข้ที่มีปัญหาแบบนี้แล้วผมก็แนะนำ มีเจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลในจังหวัดขอนแก่น เค้าเจอปัญหากินแคลเซียมเอสโตรเจนมาตั้งหลายปี เป็นวัยทองไม่หาย เป็นหนักขึ้นๆ
#ผมก็บอกหยุดกินซะแล้วมากินแคลเซียมเย็น กินเอสโตรเจนธรรมชาติ ผมก็บอกมากินเอสโตรเจนเย็นจากธรรมชาติเนี่ย เพราะอันเดิมกินแล้วไม่หายแปลว่าไม่ถูกกัน กินไม่ดีขึ้นแย่ไปกว่าเดิมด้วย
#ผมก็บอกให้มาทำน้ำสมุนไพรฤทธิ์เย็น นี่แหละ ย่านาง ใบเตย ผักบุ้ง บัวบกอ่อมแซบ มาทำสมุนไพรฤทธิ์เย็น อันนี้มีแคลเซียมเย็น ผมบอกว่าอย่างงี้ แล้วก็มากินน้ำมะพร้าวเอาน้ำมะพร้าวสดใส่เข้าไป น้ำมะพร้าวอ่อนสดใส่เข้าไปหนึ่งต่อหนึ่ง
#ผมก็บอกให้เค้าผสมหนึ่งต่อหนึ่ง กินครั้งละครึ่งถึงหนึ่งแก้ว วันละหนึ่งถึงสี่ครั้ง ก่อนอาหารหรือตอนท้องว่างหรือเท่าที่รู้สึกสบาย ปรากฏว่าเค้าทำอยู่หนึ่งสัปดาห์ ก็แจ้งผมว่า ขอบคุณอาจารย์มาก ที่เป็นมาหลายปีหายแล้ว
#เพราะว่าน้ำมะพร้าวมันมีเอสโตรเจนธรรมชาติอยู่ ส่วนสมุนไพรฤทธิ์เย็นก็มีแคลเซียม ได้สองอย่างเข้าไปก็สมบูรณ์แล้ว อย่างนี้เป็นต้น ก็กินอย่างนั้นแหละหายแล้วก็เลิก ไม่สบายใหม่ก็กินอีก ไม่เห็นเป็นไรเลย
#เพราะถ้าไปกินเป็นประจำเลยมันก็ มันเปลืองเงิน มันเปลืองเงินแล้วธาตุมันก็จะเกินด้วย เปลืองทั้งเงินธาตุมันก็จะเกินด้วย มันก็จะไม่เข้าท่าเอานะ ก็ไม่เอาเราก็ไม่กินโอเคนะ ก็เป็นอย่างนี้นะครับ
#สรุปแล้วถ้าเราปรับสมดุลร้อนเย็นได้ดี ปฏิบัติได้ดีทำได้ดี ลดกิเลสได้ดี มันจะไม่มีวัยทอง ไม่มีหรอกนะ
#ซึ่งไปตรงกับงานวิจัยของ น.พ. ฮินนี่ เครตั้น ที่วิจัยเรื่องกระดูกยาวนานที่สุดในโลก พบว่าแคลเซียมที่เข้ากระดูกได้ดีที่สุดในโลกตอนนี้คือ แคลเซียมจากผักใบเขียวและผักใบเขียวที่ผมไปดูส่วนใหญ่กลายเป็นผักฤทธิ์เย็น ไปดูในงานวิจัย ก็เลยอ้อรู้แล้วคืออันนี้ อย่างนี้เป็นต้น
#หรือแม้แต่ผู้ป่วยไตวายผู้ป่วย ไตวายนี่ก็คุณหมอรักษามา 100 กว่าปี ก็ไม่มีใครหายสักคน มีแต่ตาย คุณหมอแผนปัจจุบันนะแต่คนมารักษากับเรานี่ เยอะแยะไปหมดเลย มีเคสเยอะแยะเต็มไปหมด หลายท่านหาย เพราะเราใช้วิธีปรับสมดุลร้อนเย็นรักษา
#คนไข้ไตวายส่วนใหญ่จะเป็นภาวะร้อนเกินจึงดูดน้ำไปดับร้อนจึงบวม แล้วโพแทสเซียมที่เกินในคนไข้ไตวาย เป็นโพแทสเซียมร้อน จึงเป็นสิ่งที่เขาไม่ต้องการเขาจึงดูดน้ำไปดับร้อน แล้วเขาต้องการโพแทสเซียมเย็น
#โพแทสเซียมเย็นมีอยู่ในผักสมุนไพรฤทธิ์เย็น ผักสดสมุนไพร ผักสดสีเขียวนี่แหละ สมุนไพรฤทธิ์เย็นนี่แหละ เขาจะมีโพแทสเซียมเย็นอยู่ในอาหารฤทธิ์เย็น พอกินพวกฤทธิ์เย็นนี้เข้าไป ชีวิตต้องการ เขาก็จะดูดไปฟื้นไต
#เพราะเขาต้องการฟื้นหัวใจฟื้นไต ชีวิตต้องการโพแทสเซียมในกระบวนการโซเดียมปั๊มของหัวใจ การทำงานของเซลล์ พอได้โพแทสเซียมเย็นเข้าไปเขาก็สบายเลย รับได้เลย มีพลังเลย พอมีพลังเขาก็ขับโพแทสเซียมร้อนออก
#พอเขามีพลังเขาสร้างไตขึ้นมาให้แข็งแรง สร้างร่างกายส่วนอื่นๆ ให้แข็งแรง เขาจะขับโพแทสเซียมร้อนออกเขาจะแข็งแรงนะครับ นี่คือสัจจะ เป็นอย่างนี้ นี่คือเรื่องราวเป็นอย่างนี้
#แต่ถ้ากินโพแทสเซียมร้อนเข้าไปก็แย่เหมือนกันนะ กินโพแทสเซียมร้อนเข้าไปแล้วจะแย่ ต้องกินโพแทสเซียมเย็น กินโพแทสเซียมร้อนนี่แย่เลย ถ้ากินผักสดสีเขียว ผลไม้สีเขียวที่มีฤทธิ์ร้อนมันก็แย่ เพราะมันร้อน ถ้าในกรณีของคนที่มีภาวะร้อนเกิน
#เพราะ ฉะนั้นต้องตรวจสอบภาวะร้อนเย็นให้ดี ตรวจสอบภาวะร้อนเย็นให้ดี ถ้าไตวายเป็นเพราะว่าร้อนเกินก็ใช้เย็น เป็นภาวะเย็นเกินก็ใช้ร้อน เป็นร้อนเย็นพันกันก็ใช้ร้อนเย็นผสมกันในการรักษา คนไข้ก็จะดีขึ้นนะครับ
#แล้วคุณหมอท่านไปห้ามกินผักสดผลไม้สด พอไปห้ามกินแล้วไปห้ามกินตัวที่มันจะหาย มันก็เลยไม่มีใครหายซักคน ตั้งแต่รักษามา ตายทุกคน ไม่มีใครหายสักคนเลย เพราะท่านไปห้ามกินไอ้ตัวที่มันจะหาย ประเด็นมันอยู่ตรงนี้ และท่านไม่รู้ร้อนเย็นที่มันอยู่ในพืช อยู่ในอาหาร
#และก็น่าเห็นใจท่าน ท่านยังไม่รู้น่ะ ท่านก็ไปห้ามกินตัวที่มันจะหาย เลยไม่มีใครหายเลยซักคน ไอ้เรานี่รู้ว่าผักสดผลไม้สดมีทั้งฤทธิ์ร้อนและฤทธิ์เย็น
#ถ้ากรณีภาวะร้อนเกินนี่ก็ให้กินฤทธิ์เย็น กรณีภาวะเย็นเกินก็ให้กินฤทธิ์ร้อน มันก็จะดีขึ้น นะครับ คนไข้จะดีขึ้นได้ด้วยประการนี้
ดร.ใจเพชร กล้าจน(หมอเขียว)
วันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐
นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ
ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์วิถีธรรม
วิชชาธิการบดี สถาบันวิชชาราม
Powered by
MakeWebEasy.com