หยวกกล้วยประโยชน์มากมี ต้มล้างพิษ-ทำกระทง-สุดยอดมากๆๆน้ำไส้ต้นกล้วย ช่วยล้างพิษ-น้ำไส้กล้วย ล้าง ตับ ไต ไส้พุง#สรรพคุณช่วยให้ระบบขับถ่ายปัสสาวะเป็นปรกติ ล้างตับ ไต ไส้พุง สารพิษต่างๆ ภายในร่างกายผ่านออกทางปัสสาวะ ทั้งยังช่วยละลายนิ่วในไต ถุงน้ำดี และต่อมลูกหมาก ให้หมดไปอีกด้วย#วิธีทำลอกกาบกล้วยที่ตัดเครือแล้วให้ถึงไส้แกนใน แล้วนำมาหั่นเป็นท่อนๆ ใส่ถุงพลาสติกมัดปากถุง เก็บในตู้เย็น แช่ช่องผัก เวลาใช้ให้นำออกมา ครึ่งกิโลกรัม หั่นเป็นชิ้นเล็กๆต้มกับน้ำ 2 ลิตร โดยต้มน้ำให้เดือดก่อนจึงหรี่ใช้ไฟอ่อน จากนั้นใส่แกนกล้วยในต้นกล้วยลงไป ต้มต่อให้เดือดด้วยไฟอ่อน 10 นาที ยกลง นำน้ำที่ต้มได้มาดื่ม#วิธีใช้ดื่มครั้งละ 1 แก้วก่อน 30 นาทีก่อนอาหาร เช้า กลางวัน และเย็นหมายเหตุท่านที่มีปัญหา ท้องอืด แน่นท้อง หลังรับประทานอาหาร ปวดท้อง ปวดเอว ถ่ายปัสสาวะกะปริบกะปรอย ปัสสาวะขุ่นไม่ใส ปวดแข้ง ปวดขา หนักตัว ให้ดื่มต่างน้ำทั้งวัน วันละ 2 ลิตร โดยดื่มหลังตื่นนอน ตอนเช้า ก่อน 3 แก้ว จากนั้นทยอยดื่ม ส่วนที่เหลือ ก่อนอาหาร 30 นาที หลังอาหาร 40 นาที ดื่มทุกวันจนกว่าจะหายเป็นปรกติ#ส่วนสรรพคุณทางโบราณส่วนที่ใช้หัวปลี เนื้อกล้วยน้ำว้าดิบ หรือห่าม กล้วยน้ำว้าสุกงอม ราก ต้น ใบ ยางจากใบสรรพคุณราก - แก้ขัดเบาต้น - ห้ามเลือด แก้โรคไส้เลื่อนใบ - รักษาแผลสุนัขกัด ห้ามเลือดยางจากใบ - ห้ามเลือด สมานแผลผล - รักษาโรคกระเพาะ แก้ท้องเสีย ยาอายุวัฒนะ แก้โรคบิด รักษาแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก แก้ริดสีดวงกล้วยน้ำว้าดิบ - มีฤทธิ์ฝาดสมาน ใช้แก้อาการท้องเดิน แก้โรคกระเพาะ และอาหารไม่ย่อยกล้วยน้ำว้าสุกงอม - เป็นอาหาร ยาระบาย สำหรับผู้ที่อุจจาระแข็ง หรือเป็นริดสีดวงทวารขั้นแรกจนกระทั่งถ่ายเป็นเลือดหัวปลี - (ช่อดอกของต้นกล้วย จำนวนไม่จำกัด) ขับน้ำนมวิธีและปริมาณที่ใช้ :ขับน้ำนม - ใช้หัวปลีแกงเลียงรับประทานบ่อยๆ หลังคลอดใหม่ๆแก้ท้องเดินท้องเสียใช้กล้วยน้ำว้าดิบหรือห่ามมาปอกเปลือก หั่นเป็นชิ้นบางๆ ใส่น้ำพอท่วมยา ต้มนานครึ่งชั่วโมง ดื่มครั้งละ 1/2 - 1 ถ้วยแก้ว ให้ดื่มทุกครั้งที่ถ่าย หรือทุกๆ 1-2 ชั่วโมง ใน 4-5 ชั่วโมงแรก หลังจากนั้นให้ดื่มทุกๆ 3-4 ชั่วโมง หรือวันละ 3-4 ครั้งสรรพคุณเด่น :แก้โรคกระเพาะ ท้องผูก1. แก้โรคกระเพาะ - นำกล้วยน้ำว้าดิบ (ถ้าเป็นกล้วยกักมุกดิบจะดีกว่า) มาปอกเปลือก แล้วนำเนื้อมาฝานเป็นแผ่นบางๆ ตากแดด 2 วันให้แห้งกรอบ บดเป็นผงให้ละเอียด ใช้รับประทาน ครั้งละ 1-2 ช้อนโต๊ะ ละลายน้ำข้าว น้ำผึ้ง (น้ำธรรมดาก็ได้) รับประทานก่อนอาหารครึ่งชั่วโมง และก่อนนอนทุกวัน2. แก้ท้องผูก - ให้รับประทานกล้วยน้ำว้าสุกงอม ครั้งละ 2 ผล วันละ 3 ครั้ง ก่อนอาหาร 1/2 ชั่วโมง เวลารับประทานควรเคี้ยวให้ละเอียดที่สุด3. แก้ท้องเดิน - ใช้เนื้อกล้วยน้ำว้าห่ามรับประทาน หรือใช้กล้วยน้ำว้าดิบ ฝานเป็นแว่น ตากแห้งรับประทานสารเคมีที่พบ :หัวปลี มีธาตุเหล็กมากหัวปลี และราก มี Triterpene หรือ Steroidผลกล้วย ทุกชนิดประกอบด้วย น้ำ แป้ง โปรตีน ไขมัน เส้นใย เกลือแร่ต่างๆ (โดยเฉพาะแคลเซียม เหล็ก และโปรแตสเซียมในกล้วยหอมมีมาก) วิตามิน และเอนไซม์ต่างๆ นอกจากนี้ยังมี Serotonin Noradrenaline และ Dopamineผลดิบ มีแป้ง Tannin acid, Gallic acid และ Pectin มากส่วนกล้วยหอมสุกประโยชน์ทางยาของกล้วยหอมกล้วยหอมเป็นผลไม้ รสหวาน เย็น ไม่มีพิษ สารอาหารที่สำคัญๆ ในกล้วยหอม ได้แก่ แป้ง โปรตีน ไขมัน น้ำตาล วิตามินหลายชนิด จัดเป็นผลไม้บำรุงร่างกายดี นอกจากนี้กล้วยหอมยังสามารถใช้รักษาโรคได้หลายชนิด เช่น เป็นยาทำให้ปอดชุ่มชื่น แก้กระหาย ถอนพิษ นอกจากนี้ยังพบว่า มีฤทธิ์รักษาตามตำรับยา ดังนี้รักษาความดันโลหิตสูง - เอาเปลือกกล้วยหอมสด 30-60 กรัม ต้มเอาน้ำดื่ม ถ้าเอาปลีกล้วยต้มรับประทานเป็นประจำ จะช่วยป้องกันเส้นเลือดในสมองแตกได้รักษาริดสีดวงทวาร แก้ท้องผูก - รับประทานกล้วยหอมสุกตอนเช้า ขณะท้องว่างวันละ 1-2 ผล ทุกวันรักษามือเท้าแตก - เอากล้วยหอมที่สุกเต็มที่ เจาะรูเล็กๆ ที่ปลายข้างหนึ่ง แล้วบีบเอากล้วยออกมาทาที่เท้าแตก ทิ้งไว้หลายชั่วโมง จึงล้างออก จะรู้สึกดีขึ้น
ที่มา : https://www.facebook.com/460987094057782/posts/1150961115060373/